ผิง พิมพาภรณ์ ลีนุตพงษ์ คือชื่อที่หลายคนยังคงจำได้จากผลงานในวงการบันเทิงไทย เธอเกิดในครอบครัวที่มีชื่อเสียง และได้ศึกษาภาพยนตร์ที่มหาวิทยาลัยรังสิต หลังจากนั้นก็ไปศึกษาต่อด้านแฟชั่นที่ London College of Fashion ประเทศอังกฤษ ซึ่งการศึกษาของเธอทำให้เธอมีมุมมองที่กว้างขวางในหลายๆ ด้าน ทั้งการแสดงและแฟชั่น ผิงไม่เพียงแต่ทำงานในวงการบันเทิงเท่านั้น แต่ยังได้สร้างอาชีพใหม่ในธุรกิจแฟชั่นที่ได้รับการยอมรับในวงการอีกด้วย

เธอเติบโตขึ้นในครอบครัวที่มีความหลากหลายทางธุรกิจ เนื่องจากเธอเป็นทายาทของบริษัท ยนตรกิจกรุ๊ป ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่สำคัญของประเทศไทย ด้วยการที่เธอเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยโอกาส ผิงจึงสามารถมุ่งสู่การสร้างชื่อในวงการบันเทิงได้อย่างรวดเร็ว

เส้นทางในวงการบันเทิง

ผิง พิมพาภรณ์เริ่มต้นเข้าสู่วงการบันเทิงในช่วงกลางยุค 2000 จากภาพยนตร์เรื่อง “สยิว” ที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงที่มีเสน่ห์และความสามารถในการสื่อสารอารมณ์อย่างยอดเยี่ยม หลังจากนั้น เธอได้ทำงานในหลากหลายผลงานทั้งละครและภาพยนตร์ รวมไปถึงมิวสิควิดีโอเพลงต่างๆ ซึ่งทำให้ชื่อของผิงติดอยู่ในใจของแฟนๆ คอหนังและวงการบันเทิงไทยเป็นเวลานาน

นอกจากผลงานในวงการภาพยนตร์แล้ว ผิงยังเป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีผลงานละครที่ได้รับความนิยมอย่าง “เสือ สิงห์ กระทิง โสด” และ “กลรักเกมพยาบาท” ซึ่งทำให้เธอได้รับการยอมรับจากแฟนๆ และเป็นที่จดจำในบทบาทที่หลากหลาย

การเปลี่ยนแปลงเส้นทางอาชีพ

หลังจากที่ผิงทำงานในวงการบันเทิงมานานหลายปี เธอก็เริ่มมีการผันตัวไปสู่อาชีพใหม่ที่ตนเองหลงใหล นั่นคือธุรกิจแฟชั่น เธอได้เปิดร้านเสื้อผ้าแบรนด์ “Beige” ที่มีแนวคิดความหวานผสมกับความสง่า คลาสสิก ซึ่งได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักในวงการแฟชั่น ผิงใช้ความรู้และประสบการณ์ที่เรียนรู้จาก London College of Fashion มาเสริมสร้างแนวคิดในการออกแบบและนำเสนอกลุ่มสินค้า

การผันตัวจากนักแสดงไปสู่ธุรกิจแฟชั่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผิงทำได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยความที่เธอมีความเข้าใจในตลาดและความต้องการของลูกค้า ทำให้แบรนด์ของเธอได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดี

ชีวิตส่วนตัวและการจากไป

ในช่วงหลายปีหลังจากที่ผิงเริ่มทำธุรกิจแฟชั่น เธอเผชิญกับปัญหาสุขภาพที่รุนแรงและทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ผิงได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคตับและไตเรื้อรัง ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตของเธออย่างมาก แม้ว่าผิงจะมีสุขภาพที่ไม่ค่อยดี แต่เธอยังคงต่อสู้และทำงานอย่างหนักจนถึงที่สุด

ในวันที่ 7 ตุลาคม 2565 ผิงได้จากไปอย่างสงบในวัย 38 ปี การจากไปของเธอสร้างความเศร้าใจให้กับเพื่อนร่วมวงการและแฟนๆ ทั่วไป ซึ่งได้ไว้อาลัยและระลึกถึงผลงานของเธออย่างลึกซึ้ง

การไว้อาลัยและความทรงจำ

การจากไปของผิง พิมพาภรณ์ทำให้หลายๆ คนในวงการบันเทิงและแฟนๆ ทั่วไปรู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่ง เพื่อนร่วมวงการและแฟนๆ ได้แสดงความเสียใจและไว้อาลัยผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งยืนยันถึงความรักและความเคารพที่พวกเขามีต่อเธอ

แม้ว่าผิงจะจากไปแล้ว แต่ผลงานของเธอยังคงอยู่ในใจของคนไทย เธอได้สร้างทั้งความบันเทิงและแรงบันดาลใจในหลายๆ ด้าน ทั้งในวงการบันเทิงและแฟชั่น ผลงานของเธอยังคงเป็นที่จดจำและเป็นที่รักของแฟนๆ ทุกคน

4o mini

Share.